การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตจากชาวต่างชาติมีความสำคัญมายาวนานและยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง นี่คือหนึ่งในผลกระทบของการท่องเที่ยว – เมื่อมีคนจำนวนมากก็หมายถึงเงินจำนวนมาก ซึ่งสร้างสถานการณ์ที่หลายๆ คนต้องการที่จะมีส่วนร่วม แม้การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของเกาะภูเก็ตชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ในตอนนี้ก็ฟื้นตัวแล้ว ไม่ใช่แค่ฟื้นตัว แต่ยังเติบโตอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วย
หากต้องการตัวอย่างที่ชัดเจนของฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ไม่ต้องมองไปไหนไกล วิกฤตซับไพร์มในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2008 โดยทั่วไปแล้ว ฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นเมื่อราคาพุ่งสูงเกินมูลค่าตลาดเนื่องจากสถานการณ์พิเศษบางอย่าง เช่น การควบคุมกฎเกณฑ์การกู้เงินที่หละหลวม (ซึ่งเกิดขึ้นในสหรัฐฯ) การเก็งกำไรเกินเหตุ หรือความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตส่วนใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเป็นชาวต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่ซื้อด้วยเงินสดโดยไม่พึ่งพาการกู้เงิน ผลกระทบจากการกู้เงินต่อตลาดจึงน้อยมากหรือไม่มีเลย ทำให้ปัจจัยที่กระตุ้นตลาดบนเกาะในขณะนี้คือการเก็งกำไรและความต้องการ
ไม่มีข้อสงสัยเลย และเห็นได้ชัดสำหรับผู้ที่เพียงมองผ่านๆ ว่า ผู้ซื้อส่วนใหญ่ในปัจจุบันมาจากรัสเซียและนักลงทุนจากประเทศยุโรปตะวันออกและอื่นๆ แม้ว่าอาจมีเหตุผลหลากหลายสำหรับเรื่องนี้ แต่หนึ่งในสถานการณ์ที่เป็นไปได้คือข้อจำกัดและความยากลำบากที่เพิ่มขึ้นในการลงทุนในตะวันตกเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน อย่างไรก็ตาม คอนโดและวิลล่าที่สร้างใหม่จำนวนมากถูกซื้อโดยกลุ่มผู้ซื้อจากภูมิภาคเหล่านี้
ในทางเทคนิคดูเหมือนว่าภูเก็ตกำลังประสบกับภาวะฟองสบู่ด้านอสังหาริมทรัพย์อันเป็นผลจากจำนวนผู้ซื้อเก็งกำไรที่เพิ่มขึ้น สถานการณ์ในตอนนี้กระตุ้นให้เกิดคำถามหลายประการ เช่น มูลค่าอสังหาริมทรัพย์จะค่อยๆ กลับสู่ภาวะปกติในระดับปัจจุบันหรือไม่ ฟองสบู่จะใหญ่ขึ้นอีกแค่ไหนจนกว่าจะแตก และหากฟองสบู่แตกในเร็วๆ นี้ วิกฤตจะรุนแรงแค่ไหน น่าเศร้าที่ไม่มีใครมีคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ มิฉะนั้น ข้อมูลเหล่านี้คงมีค่ามาก อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์คาดเดาได้ยาก และในตลาดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างภูเก็ต มีตัวแปรทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองมากเกินไปจนไม่มีใครสามารถคาดเดาได้อย่างมั่นใจ บางทีผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับตลาดในท้องถิ่นอย่างลึกซึ้งอาจพยายามทำนายด้วยความมั่นใจมากขึ้นเล็กน้อยภายใต้เงื่อนไขที่เสถียรที่สุด อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยที่ไม่แน่นอนมากมายที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรม เช่น ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
ปัจจัยหนึ่งที่อาจกดดันราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นบนเกาะนี้คือปัญหาการมีอสังหาริมทรัพย์เกินความต้องการที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในขณะนี้มีคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ และวิลล่าหลายหมื่นแห่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง มีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะไม่มีผู้ซื้อเพียงพอที่จะซื้อในราคาที่สูงขึ้นในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม กลุ่มใหญ่ของผู้ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ภูเก็ตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่จะถือครองการลงทุนของตนในระยะยาว พวกเขาเป็นกลุ่มที่ส่วนใหญ่ซื้ออสังหาริมทรัพย์แบบเต็มจำนวนและน่าจะไม่อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องขายขาดทุน