ตัวเลือกในการทำงานทางไกลอาจมีมาสักระยะหนึ่งแล้วสำหรับบางคน แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นความเคยชินสำหรับหลายๆ คน ด้วยความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น ซอฟต์แวร์ที่เชื่อมต่อและล้ำหน้ามากขึ้น และนายจ้างที่ยินดีลดต้นทุนของบริษัท อุตสาหกรรมหลายแห่งจึงสนับสนุนให้พนักงานทำงานทางไกลได้ นอกจากนี้ การระบาดของ COVID-19 ยังเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ และช่วยให้อุตสาหกรรมต่างๆ สามารถปรับปรุงระบบได้แบบเรียลไทม์

ทุกวันนี้ มีชาวต่างชาตินับร้อยหรืออาจจะถึงหลักพันคนที่อาศัยอยู่ในภูเก็ตและทำงานทางไกล แม้ว่าอาจมีความท้าทายอยู่บ้าง แต่หลายคนสามารถปรับตัวได้และใช้ชีวิตในฝันบนเกาะแห่งนี้

โครงสร้างพื้นฐาน

Image by freepik

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้ที่ต้องการทำงานทางไกลสามารถตั้งถิ่นฐานในภูเก็ตได้ คือการมีอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ ย้อนกลับไปกว่าทศวรรษที่ผ่านมา เกาะภูเก็ตมีอินเทอร์เน็ตที่แข่งขันได้ในระดับโลก โดยมีการติดตั้งสายไฟเบอร์ออปติกและเครือข่าย 5G ในหลายพื้นที่และบ้านเรือนตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น สำหรับผู้ที่ทำงานทางไกล การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว แบนด์วิดท์สูง และบริการที่เสถียรถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพราะพวกเขาไม่สามารถทำงานได้หากขาดสิ่งเหล่านี้

ประเภทของการทำงานทางไกล

Image by freepik

ชาวต่างชาติที่ทำงานทางไกลในภูเก็ตมาจากหลากหลายอุตสาหกรรม การสอนภาษาอังกฤษ (หรือภาษาอื่นๆ) เป็นการส่วนตัวหรือในโรงเรียนนานาชาติเป็นอาชีพที่พบได้บ่อย ในขณะที่บางคนอาจประกอบอาชีพเป็นนักสร้างคอนเท้น (Content Creator) นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในหลากหลายบทบาท เช่น IT วิศวกรรมซอฟต์แวร์ การพัฒนาแอปพลิเคชัน การออกแบบเว็บไซต์ หรือการสนับสนุนด้านเทคโนโลยี อีกทั้งยังมีชาวต่างชาติที่ทำงานในสายงานอีคอมเมิร์ซ การซื้อขายหุ้นหรือสกุลเงินดิจิทัล และตำแหน่งงานด้านฟินเทคอื่นๆ

ความท้าทาย

Image by jigsawstocker on Freepik

สำหรับผู้ที่ทำงานให้กับบริษัทในซีกโลกตะวันตก ความแตกต่างของเวลาสามารถสร้างความยากลำบากไม่น้อยในการทำงานร่วมกับทีม หรือการต้องพร้อมทำงานในช่วงเวลาที่กำหนด อาจหมายถึงการต้องทำงานในช่วงเวลากลางคืน

อีกอุปสรรคสำคัญที่ชาวต่างชาติทำงานทางไกลต้องเผชิญคือข้อกำหนดด้านวีซ่าของประเทศไทย ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์เฉพาะของแต่ละคน อาจมีตัวเลือกหลากหลายให้เลือก เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทยได้เริ่มเสนอโครงการวีซ่า Destination Thailand Visa (DTV) วีซ่านี้ให้สิทธิการเข้า-ออกหลายครั้งเป็นเวลา 5 ปี โดยสามารถอยู่ต่อเนื่องได้ครั้งละ 180 วัน มุ่งเน้นเฉพาะผู้ที่ทำงานทางไกล โดยสามารถทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ไม่ใช่กับบริษัทในไทย ผู้สมัครจะต้องพิสูจน์ว่าทำงานให้บริษัทต่างชาติ และมีเงินฝากในบัญชีธนาคารไทยไม่น้อยกว่า 500,000 บาท อย่างไรก็ตาม วีซ่านี้ไม่ใช่ทางออกสำหรับระยะยาวแบบต่อเนื่อง

อีกหนึ่งตัวเลือกคือ วีซ่าผู้พำนักระยะยาว (Long-Term Resident Visa) ซึ่งอาจเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด โดยเงื่อนไขหลักคือผู้สมัครต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี อย่างน้อย 2 ปี ต้องมีประกันสุขภาพครอบคลุมระยะเวลาของวีซ่าทั้งหมด ทำงานให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือบริษัทที่มีรายได้มากกว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และข้อกำหนดอื่นๆ ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติจะได้รับประโยชน์มากมาย รวมถึงวีซ่าที่มีอายุ 10 ปี

นอกจากนี้ การรักษาสมาธิในการทำงานอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับบางคน โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้ชีวิตในรูปแบบนี้ ความอิสระและสิ่งรบกวนใจ (ซึ่งมีมากมาย) อาจทำให้เกิดความลำบากได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สามารถหาสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตได้ จะได้รับผลตอบแทนจากการใช้ชีวิตบนเกาะแห่งนี้

ชาวต่างชาติที่ทำงานทางไกลในภูเก็ตไม่ได้อยู่ลำพัง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีสถานที่ทำงานร่วม (Co-working Space) เกิดขึ้นมากมาย สถานที่เหล่านี้มักมีพื้นที่เงียบสงบสำหรับการโทรศัพท์ ห้องประชุม โอกาสในการสร้างเครือข่าย และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการทำงานอีกด้วย